เสือหิวChannel แหล่งรวมสูตรเมนูอาหารง่าย ๆ และวิธีทำอาหาร ง่าย ๆ พร้อมขั้นตอนการทำอย่างละเอียด

วิธีทำเกี้ยวหมูทอด พร้อมวิธีห่อเกี๊ยวทอดกรอบอร่อยพร้อมน้ำจิ้มมะขามเปียก

วันนี้เสือหิว ขอนำเสนอเมนูเกี๊ยวทอดเมนูของทอดที่เป็นอาหารจานโปรดของใครหลายๆคน มีเกี๊ยวทอดแล้วแต่ไม่มีน้ำจิ้มได้อย่างไร เสือหิวมีขั้นตอนการทำน้ำจิ้มมะขามเปียกมาฝากกันไว้ทานคู่กับเกี๊ยวทอด หรือจะเป็นลูกชิ้นทอด ไส้กรอกทอดทานคู่กันอร่อยเข้ากันได้ดี วิธีการทำก็ไม่ยุ่งยาก มีวัตถุดิบหลายอย่างที่ต้องจัดเตรียม สำหรับน้ำจิ้มมะขามเปียกสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานประมาณ 1 เดือน เรียกได้ว่าทำครั้งเดียวเก็บไว้ทานได้หลายครั้งน้ำจิ้มมะขามเปียกสูตรเข้มข้นรสชาติจัดจ้าน เปรี้ยวจี้ดจากน้ำมะขามเปียก ความกลมกล่อมจากน้ำตาลปี๊บและยังมีความหวานซ่อนเปรี้ยวจากมะเขือเทศ วันนี้สูตรของเสือหิวน้ำจิ้มมะขามเปียกไม่ใส่แป้งมันนะจ้ะ เป็นการนำส่วนผสมนำมาเคี่ยวจนส่วนผสมมีความเข้มข้นเหนียว มีกลิ่นหอมของน้ำมะขามเปียก และพริกแห้งคั่วรสชาติเผ็ดอ่อนๆ ทานแล้วได้รสชาติที่กลมกล่อม เราจะทานคู่กับเกี๊ยวทอดแก้ความเลี่ยนหรือจะทานคู่กับลูกชิ้นมาทอดกรอบๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน สมัยเด็กเสือหิวชอบทานลูกชิ้นทอดและน้ำจิ้มมะขามเปียกกับข้าวสวยหลังเลิกเรียนเวลาไม่มีอะไรทาน ทานแล้วนึกถึงวัยเด็กขึ้นมาเลย วันนี้เสือหิวก็มีวิธีการและขั้นตอนการทำมาฝากเพื่อนๆ ถ้าพร้อมแล้วเตรียมตัวรีบไปตลาดกันดีกว่า หาซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหารกันดีกว่า

สูตรน้ำจิ้มมะขามเปียก ( ไม่ใส่แป้ง )

ขั้นตอนการทำน้ำจิ้มมะขามเปียกแบบไม่ใส่แป้ง 

  1. เริ่มต้นนำมะขามเปียกไปแช่ในน้ำอุ่นประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นขยำมะขามเปียกให้ได้น้ำมะขามเปียกและกรองเอาเนื้อมะขามออกให้เหลือแต่น้ำ
  2. เราไปคั่วพริกแห้งกันต่อเลย ใช้ไฟอ่อนในการคั่ว คั่วให้พริกแห้งมีกลิ่นหอมมีสีไหม้ๆเล็กน้อย หลังจากนั้นนำไปพักไว้ก่อน
  3. เตรียมหั่นผักชี พริกชีฟ้าสีแดง มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นเล็ก เสร็จแล้วน้ำส่วนผสมทั้ง 3 อย่างลงไปปั่นในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำกระเทียมดอง น้ำมะขามเปียก นำลงไปปั่นรวมกันให้ละเอียด

  4. เสร็จแล้วนำลงใส่หม้อที่เราต้องการต้ม ใส่เกลือป่นลงไป น้ำสมสายชู น้ำตาลปี๊บและน้ำตาลทราย ใส่หัวกระเทียมดอง เติมน้ำสะอาดลงไปประมาณ 2 ถ้วย ใส่มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นใหญ่ลงไป นำไปตั้งเตาใช้ไฟอ่อน เคี่ยวจนน้ำจิ้มมะขามเปียกเรามีความข้นเหนียว ใช้เวลาเคี่ยวประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง น้ำจิ้มมะขามเปียกรสชาติเปรี้ยวหวานตาม ชิมรสชาติได้ตามที่เราชอบเลย ใส่พริกแห้งที่เราคั่วไว้ ปั่นแค่พอหยาบ (ถ้าน้ำจิ้มมีความข้นเหนียวมากเราเติมน้ำสะอาดลงไปแล้วต้มต่อให้เดือกก็เป็นอันใช้ได้)

ส่วนผสมสำหรับทำวิธีทำเกี้ยวหมูทอด พร้อมวิธีห่อเกี๊ยวทอดกรอบอร่อย

ขั้นตอนวิธีห่อเกี๊ยวทอดกรอบ

  1. เริ่มต้นทำการหมักหมูบดกันเลย ใส่พริกไทย กระเทียม รากผักชี ซอสปรุงรส นวดส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่ต้นหอมคลุกเคล้าแบบเบามือ

  2. เตรียมแผ่นเกี๊ยว เอาแปรงหรือปลายมีดขูด เคาะเอาแป้งออก ขูดแบบเบามือระวังแป้งเกี๊ยวขาด เสร็จแล้วนำหมูบดมาวางตรงกลางแผ่นเกี๊ยว วางแผ่นเกี๊ยวลงในฝ่ามือให้มุมแหลมของแผ่นเกี๊ยวอยู่บน ล่าง ซ้าย ขวา (ทำตามเสือหิวกันเลยจ้) แล้วกดให้หมูบดแบนติดแผ่นเกี๊ยว อย่าใส่หมูบดเยอะจนเกินไปเวลานำไปทอดหมูจะไม่สุก จากนั้นก็ทำการพับแผ่นเกี๊ยวให้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม พับมุมด้านล่างขึ้นไปให้เสมอมุมด้านบน แล้วเอาไข่ขาวป้ายที่มุมด้านบน (ไข่ขาวเหมือนเป็นกาว) กดอีกครั้งให้เสมอกัน ห่อแผ่นเกี๊ยวให้เสร็จก่อนแล้วไปเตรียมทอดกันเลย


  3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน พอน้ำมันเริ่มร้อนแล้วค่อยๆ ใส่แผ่นเกี๊ยวลงไปทอด ระวังอย่าให้แผ่นเกี๊ยวติดกัน ทอดให้แผ่นเกี๊ยวมีสีเหลืองสุกครบทั้งสองด้าน ก็เป็นอันใช้ได้ นำลงไปพักในตะแกรงให้หายร้อน เสร็จเรียบร้อยพร้อมทานคู่กับน้ำจิ้มมะขามเปียก


เพื่อนๆ จะเห็นได้ว่าน้ำจิ้มสูตรนี้เราไม่ได้ใส่แป้งมัน เราใช้วิธีการเคี่ยวจนน้ำตาลปี๊บมีความข้นเหนียว บางสูตรก็จะใส่สับปะรดลงไปด้วย แต่วันนี้เราใส่น้ำส้มสายชูและมะเขือเทศตัดความเปรี้ยวจากมะขามเปียก นำทุกอย่างไปตั้งเตาเคี่ยวด้วยไฟอ่อน ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก็ทานได้แล้ว ส่วนเกี๊ยวทอดวิธีห่อเกี๊ยวทอด และวิธีการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด แผ่นเกี๊ยวก็สามารถหาซื้อได้ที่ตลาด นำหมูบดไปห่อตรงกลางแผ่นเกี๊ยว แต่ก่อนจะนำแผ่นเกี๊ยวไปห่อหมูบด เราใช้มีดขูดหรือเคาะแป้งที่ติดที่แผ่นเกี๊ยวออกเล็กน้อย เวลานำไปทอดน้ำมันจะได้ไม่ดำเวลานำไปทอดแผ่นเกี๊ยวของเราจะได้มีสีเหลืองน่ารับประทาน จากนั้นนำไปทอดด้วยไฟกลางใช้เวลาไม่นานแผ่นเกี๊ยวจะสุกง่าย ถ้าทอดนานไปจนแผ่นเกี๊ยวมีสีเหลืองเข้ม เวลาทานจะมีรสชาติขมไม่อร่อย เสร็จแล้วทานคู่กับน้ำจิ้มมะขามเปียกสูตรนี้ได้เลยเป็นเมนูทานเล่นในครอบครัวหรือจะชวนเพื่อนฝูงมาสังสรรค์ที่บ้านเด็กๆทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี อร่อยง่ายๆในครอบครัว เพื่อนๆ จะเพิ่มหรือลดวัตถุดิบได้ตามที่เราชอบเลย แต่ถ้าไม่มั่นใจลองทำตามเสือหิวกันก่อนแต่เรื่องของรสชาติเราก็ชิมบ่อยๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องรสชาติ เราชอบทานแบบไหนก็ปรุงแบบนั้น รสชาติสามารถปรับเปลี่ยนไปได้ตามวัตถุดิบที่เรามี ขอให้คนทานทานแล้วมีความสุขเท่านี้อาหารของเราก็เป็นอาหารจานโปรดแล้วค่ะ

Exit mobile version